เคล็ดลับวิ่งเร็ว วิ่งพุ่ง ที่สายแข็งต้องรู้
ถ้าเอ่ยถึงเรื่องการออกกำลังกายท่า Squat สายเวทเทรนนิ่งหลายคนก็มักจะนึกถึง ท่าที่จะทำให้ก้น และ บั้นท้าย กระชับ ได้รูปสวย แต่ความลับของท่า Squat มีมากกว่าที่คุณคิด! แถมยังสามารถทำให้ “สายวิ่ง” ร้องว้าวได้อีกด้วย
สาย Running หลายคนมักจะมีความเชื่อว่า หากฝึกวิ่งให้มากขึ้นไป นานขึ้น หรือ ซ้อมวิ่งเพียงอย่างเดียว จะทำให้สามารถวิ่งได้ไว วิ่งได้เร็ว และ วิ่งได้นานขึ้น ซึ่งความเชื่อแบบนี้ อาจจะไม่ถูกต้องซะทีเดียว เพราะการบริหารท่า Squat นี้แหละ จะเป็นตัวช่วยสำคัญ ที่ทำให้วิ่งได้พุ่ง วิ่งได้เร็วมากยิ่งขึ้น
เนื่องจากการ Squat เป็นท่าออกกำลังกายที่เน้นบริหารกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า และ สร้างเสริมความแข็งแกร่ง เป็นผลทำให้ขาของคุณแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งในต่างประเทศ รวมถึงประเทศไทยเอง ก็ได้มีการทำวิจัยเกี่ยวกับความเร็วในการวิ่งที่เกิดขึ้น จากการบริหารร่างกายด้วยท่า Squat อีกด้วย
BODY-WEIGHT SQUAT
1. ทิ้งน้ำหนักไว้บนส้นเท้าเป็นท่าที่ถูกต้องของการทำ Squat
ขณะที่คุณทำท่า Squat ลองนึกว่าตัวเองกำลังนั่งยองๆอยู่บนชักโครก (ฉันรู้ว่าเป็นความคิดที่แปลก) แต่การทิ้งน้ำหนักไว้บนส้นเท้าจะทำให้ได้ผลลัพธ์อันน่ามหัศจรรย์
2. ย่อต่ำเพื่อให้รู้สึกถึงการเผาผลาญ
คราวนี้ย่อตัวให้อยู่ในท่านั่ง จินตนาการว่าตัวเองกำลังนั่งไม้กระดกและทิ้งน้ำหนักไว้บนส้นเท้า หากคุณย่อตัวต่ำก็จะเริ่มรู้สึกว่ามีการเผาผลาญของกล้ามเนื้อหน้าขา หลังขา และก้น ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้นั้นน่าทึ่งสุดๆ!
3. ท่าที่ถูกต้องเพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บ
ขณะที่คุณย่อตัวต่ำในท่า Squat ก็ควรตั้งหลังให้ตรงด้วย อย่าเอนไปข้างหน้าเนื่องจากอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อหลังส่วนล่างได้ ลองจินตนาการว่ามีแอปเปิ้ลวางอยู่บนศีรษะในขณะที่กำลังทรงตัวอยู่นั้น ขณะที่คุณย่อหัวเข่าจะต้องไม่เลยปลายเท้า และย่อตัวลงจนได้มุมประมาณ 90 องศา พร้อมทั้งยื่นแขนมาข้างหน้าเพื่อการทรงตัว แล้วขึ้น ย่อยืดนับเป็น 1 ครั้ง ให้ทำเบาๆ เลย 20 ครั้ง 3 เซต
รู้แบบนี้แล้ว สาย Running ที่ยังฝึกวิ่งอยู่อย่างเดียว ลองปรับวิธีมาเสริมท่า Squat สร้างความแข็งแรงให้กล้ามต้นขากันดีกว่า แถมชาเลนจ์กันอีกหน่อยด้วยการ Squat หลากหลายท่าให้มากขึ้น แล้วมาลองพิสูจน์กันสิว่า การวิ่งเร็ว วิ่งแรงเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย ที่ตั้งใจไว้ มันไม่ยากอย่างที่ใจคิด!